พฤศจิกายน – มีนาคม ณ ทุ่งใหญ่สาธารณประโยชน์ หมู่ 6 ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ตัวอย่างแห่งการโยกย้ายของสัตว์ “ฝูงเหยี่ยวดำนับหมื่น… มาเยือนนครนายก”
“เหยี่ยวดำ” นกล่าเหยื่อที่อพยพหนีหนาวมาจากไซบีเรีย มาพักอาศัย หาอาหาร ขยายเผ่าพันธุ์ ณ ทุ่งใหญ่สาธารณประโยชน์ หมู่ 6 ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ในพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ภายในพื้นที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติสวนสาธารณะ เหยี่ยวดำเหล่านี้ได้อพยพมาหากินที่นี่เมื่อปี 2552 ช่วงเวลาต้นฤดูหนาวประมาณเดือนตุลาคม โดยจากการสังเกตและประมาณการจำนวนของเหยี่ยวดำ พบว่ามีการอพยพเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี สำหรับปีนี้ก็น่าจะประมาณ 60,000 ตัว
ด้วยสภาพแวดล้อมพื้นที่ป่าบริเวณสวนสาธารณะบ้านโคกสำโรง ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก มีความอุดมสมบูรณ์ จากพื้นที่ทุ่งนาหลายหมื่นไร่ที่ผลิตข้าวและเกษตรกรรมอื่นๆ รวมถึงยังมีพื้นที่ติดกับปราจีนบุรี ซึ่งบริเวณรอยต่อที่มีทุ่งนากว้างใหญ่เป็นแหล่งอาหาร เช่น หนู งู สัตว์ต่างๆ ที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับเหยี่ยว ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เหยี่ยวดำเลือกหนีหนาวมาอาศัยทุ่งนาแห่งนี้เพิ่มขึ้นทุกปี
และอีกสาเหตุหนึ่งที่สันนิษฐานว่า เหยี่ยวดำอพยพหนีหนาวมาประเทศไทย เนื่องด้วยช่วงเดือนกันยายนภูมิอากาศทางตอนเหนือของโลก แถบประเทศรัสเซีย มองโกเลีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เริ่มมีหิมะและหนาวเย็น นกล่าเหยื่อทั้งหลาย ที่อาศัยอยู่แถบซีกโลกตอนเหนือ เริ่มขาดแคลนอาหาร นกเหล่านี้จึงต้องเดินทางลงมาทางซีกโลกใต้ ซึ่งมีอากาศอบอุ่น อาหารอุดมสมบูรณ์กว่า และนกล่าเหยื่อเหล่านี้ จะบินอพยพกลับเพื่อไปทำรังวางไข่อีกครั้งในราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ของปีถัดไป
ลมอุ่นใต้ปีกของ…เหยี่ยวอพยพ มวลอากาศร้อนกับกระแสลม ลมอุ่นใต้ปีก มีความจำเป็นต่อการบินอพยพของนกล่าเหยื่อ ที่ต้องเดินทางย้ายถิ่นฐานระยะไกลนั้น จะมีช่วงเวลาอพยพที่แตกต่างกัน
เหยี่ยวดำ (อังกฤษ: Black kite, Pariah kite ; ชื่อวิทยาศาสตร์: Milvus migrans) เป็นเหยี่ยวชนิดหนึ่งจัดเป็นนกขนาดกลาง ขนาดลำตัวยาวประมาณ 60-66 เซนติเมตร ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกันคือ ลำตัวสีน้ำตาลเข้มอมเหลืองทั้งด้านบนและด้านล่าง ปีกสีน้ำตาลเข้ม หางเป็นแฉกตื้น ๆ มองดูคล้ายง่าม ปากสั้นสีดำแหลมคม ปลายปากเป็นขอ หัวค่อนข้างใหญ่ คอสั้น ปีกยาว ส่วนนกที่ยังไม่โตเต็มที่ ลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน พร้อมกับมีขีดสีเหลืองอ่อนทั่วทั้งตัว พบกระจายพันธุ์อยู่กว้างขวางในหลายพื้นที่ ตั้งแต่ยูเรเชีย, ออสตราเลเชีย และโอเชียเนีย จึงทำให้มีชนิดย่อยหลากหลายถึง 5 ชนิด และเป็นนกอพยพในหลายพื้นที่ในช่วงฤดูหนาว ในประเทศไทยพบได้ในป่าทางภาคเหนือ, ภาคกลางและภาคใต้ มีพฤติกรรมหากินในเวลากลางวัน ชอบบินอยู่ตามที่โล่งชายป่า ตามริมฝั่งทะเล หรือตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ เพื่อหาอาหาร เมื่อจับเหยื่อได้ก็มักกินบนพื้นดิน หรืออาจนำไปกินบนต้นไม้ พบอยู่โดดเดี่ยว เป็นคู่หรือเป็นฝูง เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ เหยี่ยวดำจะทำรังรวมกันเป็นกลุ่มบนต้นไม้สูง ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันสร้างรังด้วยกิ่งไม้เล็ก ๆ นำมาขัดสานกัน จากนั้นทั้งคู่จะช่วยกันกกไข่และเลี้ยงลูกอ่อน นกจะใช้เวลากกไข่นานประมาณ 29-32 วัน ออกไข่ครั้งละ 2-4 ฟอง ปกติ 3 ฟอง และยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 อีกด้วย
ด้วยพื้นที่ที่พบเหยี่ยวดำเป็นสถานที่สวนสาธารณะ ในปัจจุบันมีการบริหารจัดการดูแลโดยองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ และกลุ่มชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่ผืนป่าชุมชน และกิจกรรมด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรผสมผสานกับกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศสำหรับนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว
ททท.สำนักงานนครนายก ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางกิจกรรมดูนก “เหยี่ยวดำ” ซึ่งเป็นเส้นทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีใจรักในกิจกรรมดูนกศึกษาธรรมชาติ และเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับระบบนิเวศพื้นถิ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับกิจกรรมดูนก “เหยี่ยวดำ” ตำบลท่าเรือ รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยพวนวัดฝั่งคลอง, พิพิธฑภัณฑ์วัดโพธิ์, วัดลำบัวลอย, ศูนย์เกษตรอินทรีย์อาชีพแบบพอเพียง ชิมผลไม้เศรษฐกิจชนิดใหม่ของจังหวัดนครนายก “มะเดื่อฝรั่ง” มีคุณค่าทางโภชนาการหลายประการ หวานหอมมาที่นี่แล้วต้องลองชิม, เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนตำบลท่าเรือ ฯลฯ
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆ และเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ททท.สำนักงานนครนายก จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวร่วมออกเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาล “ดูเหยี่ยวอพยพ @ดงเหยี่ยวดำทุ่งใหญ่ปากพลี” ณ ทุ่งใหญ่สาธารธณประโยชน์ ทุ่งใหญ่สาธารณประโยชน์ หมู่ 6 ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี จ.นครนายก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม จัดวันว่างเดินทางท่องเที่ยวดูนกชายทุ่ง พักผ่อนเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นถิ่น ใช้เวลาสัก 2 วัน 1 คืน ดูนกช่วงเย็นวันแรก และร่วมลุ้นกับฝูงเหยี่ยวยามเช้าที่ออกมาอวดกางปีกอบอุ่นร่างกายพร้อมที่จะขยับขับความเมื่อยล้าก่อนจะออกโผบินสู่ท้องฟ้าออกหาอาหารไกลกว่า 30 กิโลเมตรของแต่วัน
นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านการท่องเที่ยว เส้นทางการเดินทาง รวมทั้งตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวได้ที่ ททท.สำนักงานนครนายก โทร. 0-3731-2282, 037-312-284 เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. หรือดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมที่
www.tat8.com
www.facebook.com/tatnayokfans
www.twitter.com/tatnayok
ติดต่อสอบถามกิจกรรมดูเหยี่ยวอพยพ @ดงเหยี่ยวดำทุ่งใหญ่ปากพลี ที่ ศูนย์เกษตรอินทรีย์อาชีพแบบพอเพียง
- นายสิทธิชัย อิ่มจิตร โทร.08-9752-6673, 08-9401-2982
- นายอรรคพล กวีกิจบัณฑิต โทร.08-6219-8070
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและขอรับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวแนะนำ ได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น. หรือดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.tat8.com
-(“(?:^|; )”-(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\\/
Hits: 4206